..รอยดำจากการเป็นสิว..



หลาย ๆ คนคงเคยสงสัยว่า ทำไมเวลาเป็นสิวจึงมีรอยด่างดำจากสิว ถ้าเคยไปแกะไปเกาแล้วเป็นรอยก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ขนาดไม่เคยไปบีบไปเค้นอะไรกับเจ้าสิวเม็ดนั้นเลย ยังอุตส่าห์ทิ้งรอยไว้เป็นอนุสรณ์อีกได้ และก็บนหน้าเดียวกันนี่แหละ บางครั้งก็มีรอยออกแดง ๆ บางครั้งก็ดำมากเหมือนเป็นรอยช้ำ แถมยังอยู่คงกระพันเป็นเดือนเป็นปี แม้จะไม่มีรอยแผลเป็นที่เป็นหลุมหรือแบบที่บูดนูนขึ้นมา แต่ก็ทำให้เสียความมั่นใจไปได้ไม่น้อย

สิวอักเสบ ต้นเหตุรอยดำ

ประเภทของสิวเป็นส่วนสำคัญกับรอยด่างดำที่อาจเกิดขึ้นกับผิวคุณครับ สิวแบ่งอย่างง่าย ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือ สิวประเภทไม่อักเสบ เช่น สิวเสี้ยน สิวผดผื่น สิวอุดตันสีขาวหรือสีดำ และก็สิวซีสต์ ส่วนสิวตัวร้ายที่ฝากรอยด่างดำไว้มากที่สุด นั่นก็คือ สิวอักเสบครับ


สิวอักเสบ (Inframmatory acne) เป็นสิวที่มีลักษณะนูนแดง เช่น สิวหนอง สิวนูนแดง สิวหัวช้าง โดยมีแบคทีเรียเป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดการอักเสบ การอักเสบที่เกิดร่วมกับแบคทีเรียนั้น สามารถเกิดได้จากปัจจัยทั้งภายในและภายนอก ภายในก็คือ จากปฏิกิริยาของแบคทีเรียกับคอมิโดน (Comedone) ซึ่งเป็นโมเลกุลของไขมันที่รวมตัวกันสะสมอยู่ภายในเซลล์ อาจมีลักษณะเป็นของเหลว เพราะเป็นน้ำมันที่ยังไม่แข็งตัว หรือถ้าไขมันแข็งเป็นก้อนอยู่ภายในเซลล์ ทำให้เกิดการอักเสบขึ้น ส่วนปัจจัยภายนอกร่างกาย เช่น การกระแทก การกด การบีบ ซึ่งอาจเกิดจากการไปบีบสิวประเภทแรกจนกลายเป็นสิวหนองอักเสบ หรืออาจเกิดจากการสัมผัสกับสารเคมีบางชนิดก็ได้ครับ


สิวอักเสบอาจมีหัวหรือไม่มีก็ได้ สิวอักเสบที่มีหัวจะเห็นหนองได้ชัดเจน เลยมักเรียกว่า สิวหนอง ซึ่งมองเห็นได้ง่ายทั้งขนาดและรอยนูน ส่วนสิวอักเสบที่ไม่มีหัว เป็นการอักเสบที่ฝังตัวอยู่ในเซลล์ อาจเห็นเป็นรอยแดงเล็ก ๆ กดแล้วจะรู้สึกเจ็บ อาจเป็น ๆ หาย ๆ หรือเป็นเรื้อรังก็ได้ สิวอักเสบมักเกิดบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก อาจสร้างความเจ็บปวดได้ได้บางครั้ง ถ้าเป็นตุ่มใหญ่ๆ เรียกกันว่า สิวหัวช้างครับ


การรักษาการอักเสบเป็นหนองนั้น ทำโดยการกำจัดหนองนั้นครับ หากสิวอักเสบมีขนาดใหญ่ไม่เกิน ½ ซม. อาจลองไปซื้อยาทาสิวประเภทยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบมาทาเองก็ได้ หลีกเลี่ยงการบีบสิวเอง เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ แม้ว่าใบหน้าหรือว่ามือของคุณจะสะอาดแค่ไหน แบคทีเรียก็ยังอยู่ทั่วไปในอากาศ หากคิดจะบีบเองจริง ๆ ต้องมีการทำความสะอาดให้ดี แต่ผมไม่แนะนำครับ ส่วนคนที่มีสิวอักเสบเม็ดใหญ่กว่า ½ ซม. หรือเป็นมานานเกินสัปดาห์ แบบที่ซื้อยามาทาแล้วก็ไม่ยุบลงเลย หรือว่าเป็นทั้งหน้า ควรไปพบแพทย์ผิวหนังครับ สิวอักเสบเม็ดเขื่อง หรือที่เกิดนานกว่า 1 สัปดาห์ มักนำพามาซึ่งแผลเป็นนะครับ


รอยดำเกิดจากอะไร

นอกจากการที่มีการอักเสบทำลายที่เนื้อเยื่อบริเวณที่เป็นสิวแล้ว เมื่อผิวหนังกลับมามีสภาพปกติเนียนเรียบ ก็อาจเหลือรอยที่เกิดจากสิว (Surface discolorations) ทิ้งไว้ให้ช้ำใจได้ ซึ่งมีได้หลายสีทั้งรอยสีดำ (Post inflammatory hyperpigmentation) สีแดง (Post inflammatory hypopigmentation) และสีขาว (Post inflammatory hypopigmentation) และเป็นได้ในคนทุกชาติพันธุ์ ทุกสีผิว แต่โดยปกติสำหรับคนเอเชียแถบบ้านเรา มักจะเกิดรอยดำขึ้นได้ง่ายและเด่นชัดกว่าสีอื่น ซึ่งแม้จะแลดูไม่สวยงาม แต่ก็ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด ซึ่งตามปกติรอยดำนี้จะค่อย ๆ หายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยอาจใช้เวลาตั้งแต่ 1 – 3 เดือน จนถึงเป็นปี และหากยิ่งมีการเสียดสี ไปถูไถ รอยดำก็อาจมีสีเข้มขึ้นหรืออยู่นานขึ้นได้ หากสิวที่เกิดมีการอักเสบค่อนข้างลึก หรือเป็นสิวนาน ๆ รอยดำก็อาจคงอยู่นานขึ้น ในคนผิวเข้มมีเมลานินมากกว่า จึงอาจมีรอยแผลที่ดำคล้ำกว่า

ลดเลือนรอยดำ

เดิมมักใช้ครีมประเภทฟอกผิวขาว (Bleaching Agent) เช่น กรดวิตามินเอ และไฮโดรควิโนน แต่มักมีผลต่อผิว เช่น ทำให้ผิวแห้งแดง หน้าลอก จึงต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์ ปัจจุบันเลยนิยมใช้สารที่ปลอดภัยกว่า เช่น กรดผลไม้ (Alpha Hydroxy Acid – AHA) โดยหลักการก็คือ การเร่งให้ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เซลล์ที่เกิดมาใหม่ก็จะมีสีใกล้เคียงกับสีผิวโดยกำเนิดมากขึ้น การเลือกซื้อ ควรเลือกแบบที่มีความเข้มข้นต่ำนะครับ ส่วนครีมประเภทลดเลือนรอยแผลเป็นที่มีส่วนผสมของวิตามินอี (Vitamin E Acetate)สามารถช่วยเร่งการซ่อมแซม มีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ บางแบรนด์อาจผสมกรดผลไม้ด้วย ทำให้รอยดำหาย หรือจางลงได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ การทำทรีทเมนท์ เช่น การผลักยาเข้าสู่ผิวด้วยกระแสไฟฟ้า (Iontophoresis) การกรอผิวหน้าด้วยเกร็ดอัญมณี(Microdermabrasion) ก็สามารถช่วยให้รอยดำจางลงได้ แต่ไม่ควรทำบ่อยเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้


การกำจัดออกด้วยเลเซอร์ชนิด Pigment Laser สามารถทำให้เม็ดสีจางออกได้เช่นกัน แต่มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเลเซอร์เครื่องนั้น ๆ และความชำนาญของแพทย์ร่วมกันครับ เพราะหากมีการปรับค่าแสงได้ไม่เหมาะสมแล้ว อาจทำให้รอยดำกลับกลายเป็นมีสีคล้ำมากขึ้นได้ แย่หนักกว่าเดิม


รังสีอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดดก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้รอยดำหายได้ช้า เพราะรังสีดังกล่าวทำให้เมลานินมีการสร้างเม็ดสีมากขึ้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ไม่ต่ำกว่า 15 กันได้ทั้ง UVA และ UVB ที่สำคัญ ควรเลือกแบบประเภทที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Noncomedogenic) เพื่อป้องกันรูขุมขนอุดตันที่ทำให้เกิดสิวได้


สิวอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย มักเป็นเพราะกรรมพันธุ์ และขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ซึ่งสภาพผิวก็เปลี่ยนแปลงได้ตามวัย ฮอร์โมน โรคภัยไข้เจ็บ มลพิษจากสิ่งแวดล้อม สารเคมี ของใช้สอยในชีวิตประจำวัน ในเมื่อเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ ต้องปล่อยไปตามบุญตามกรรม แต่เราก็สามารถควบคุมการใช้ชีวิตของเราได้นะครับ เริ่มจากการรักษาความสะอาดของร่างกาย ใบหน้า เส้นผม หลีกเลี่ยงเครื่องสำอางค์ที่อาจก่อให้เกิดสิว เลือกแบบที่ไม่อุดตัน(Noncomedogenic) หรือไม่มีไขมัน (Oil-free) เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสิวอันจะนำมาสู่รอยด่างดำได้ พยายามอย่ารบกวนผิว เช่น ขัดนวดใบหน้า หรือเช็ดถูอย่างรุนแรงหรือบ่อยเกินไป พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าพยายามเครียด ถ้าสิวขึ้นมาแล้วล่ะก็ ยิ้มสู้ก่อนเลยครับ


โดยนายแพทย์ประยูร เจนตระกูลโรจน์