ดื่มน้ำอย่างถูกวิธี...




                น้ำเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายมากกว่าอาหาร คนเราสามารถอดอาหารเป็นระยะเวลานานๆ ได้ แต่ร่างกายไม่สามารถขาดน้ำได้นานเกินกว่า 4 วัน การดื่มน้ำในแต่ละวันก็ส่งผลต่อสุขภาพ ซึ่งคุณอาจจะไม่รู้ตัวว่า คุณอาจจะกำลังดื่มน้ำแบบผิดวิธีอยู่ก็ได้ ดื่มน้ำมากเกินไป ร่างกายก็เหมือนแก้วน้ำล้น

                 หลายคนคงเข้าใจว่า เมื่อร่างกายต้องการน้ำจึงดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไป ผลที่ตามมาก็คือ เกิดอาการท้องอืด ปัสสาวะบ่อย แล้วสีของปัสสาวะก็จะใส ซึ่งการปัสสาวะที่อยู่ในระดับปกติจะออกสีเหลืองอ่อน และถ้าขาดน้ำ ปัสสาวะจะมีสีเหลืองเข้ม และเมื่อปัสสาวะบ่อยๆ นานๆ เข้า ทั้งยังไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำอีก หรือชอบกลั้นปัสสาวะ ก็จะเกิดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ ดื่มน้ำน้อยเกินไปร่างกายก็เหมือนต้นไม้เหี่ยวเฉา

                 การดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายได้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย แต่ถ้าดื่มน้ำในปริมาณที่น้อยต่อความต้องการของร่างกาย ผิวหนัง ผิวกายและเส้นต่างๆ ก็จะตึง เพราะเลือดจะข้นมาก ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยการสูบฉีดเลือดซึ่งเป็นไปอย่างความยากลำบาก การส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะทำงานช้าลง แต่ถ้ารับน้ำในปริมาณที่พอเหมาะน้ำก็จะเข้าไปรวมตัวกับเลือด เพื่อให้เลือดลดปริมาณความข้น หัวใจก็สามารถสูบฉีดเลือดได้สะดวกและการนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายก็ง่ายขึ้น ดื่มน้ำให้พอเหมาะกับความต้องการของร่างกายดีที่สุด

               การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยระบบขับถ่ายทำงานอย่างเป็นปกติ ลดอาการท้องผูก เพราะน้ำจะเข้าไปช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อของเรามีความชุ่มชื้น ผิวหนังดูสดใสเปล่งปลั่ง ใบหน้ามีเลือดฝาด ยังช่วยในการเผาผลาญไขมันที่ต้องกำจัด เพราะไตทำงานได้ดีและเป็นปกติ

              ควรดื่มน้ำทีละอึก ค่อยๆ ดื่ม เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่า ไม่ควรดื่มน้ำรวดเดียวหมด เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ช้าและยังเกิดอาการจุกเสียดกระเพาะและอึดอัดท้อง

              ควรดื่มน้ำอุ่นตอนเช้า 3-5 แก้วเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า เพื่อให้ร่างกายได้ขับถ่ายของเสียและสารพิษในร่างกาย ไม่ควรดื่มน้ำเย็นก่อนนอน เพราะจะทำให้เวลากลางคืนที่คุณหลับ จะลุกขึ้นมาปัสสาวะ ซึ่งจะทำให้การนอนหลับของคุณขาดช่วง เท่ากับว่าคุณต้องไปเริ่มกระบวนการพักผ่อนใหม่อีกครั้ง (ควรดื่มน้ำอุ่นแทนการดื่มน้ำเย็น เพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้ปกติ)

              ควรดื่มน้ำผลไม้ ชนิดไม่แยกกาก หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของธัญพืชชงร้อนๆ ก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นและเติมไฟเบอร์ให้ร่างกาย การขับถ่ายก็จะง่ายขึ้น ไม่ควรดื่มน้ำอัดลม เพราะยิ่งจะไปเพิ่มปริมาณแก๊สในกระเพาะ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย

               ควรดื่มน้ำหลังจากรับประทานอาหารไปแล้ว 15-30 นาที เพื่อให้อาหารที่รับประทานเข้าไปย่อยให้หมด ไม่ควรดื่มน้ำตามเวลารับประทานอาหาร จะทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปอืด ส่งผลให้อาหารไม่ย่อย ก็จะเกิดอาการปวดท้อง (แต่สามารถจิบน้ำซุประหว่างรับประทานอาหารได้)

แค่คุณเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำ คุณก็จะมีสุขภาพที่ดีได้ง่ายๆ



ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง